หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ฟิลเลอร์เน่า” แล้วรู้สึกน่ากลัวใช่ไหมครับ ฟังดูเหมือนอันตรายร้ายแรง แต่จริงๆ แล้วปัญหานี้มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือการใช้ฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อฟิลเลอร์ตกค้างหรืออักเสบ อาจทำให้เกิดอาการบวม แดง หรือเป็นก้อนแข็งใต้ผิวได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักสาเหตุของฟิลเลอร์เน่าว่าเกิดจากอะไร และควรแก้ไขอย่างไรให้ปลอดภัยครับ
ฟิลเลอร์เน่า เกิดจากสาเหตุอะไร
ฟิลเลอร์เน่า คือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วมีอาการอักเสบ บวมแดง เป็นก้อนแข็ง หรือผิวหนังเปลี่ยนสีในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงไม่กี่วันหลังฉีด หรือแม้แต่ “หลายเดือนถึงเป็นปี” หลังจากฉีดไปแล้วก็ยังเกิดได้ครับ โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดฟิลเลอร์เน่ามีดังนี้:
- ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน
ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับรองจาก อย. ไทย มักมีความไม่บริสุทธิ์ เจือปนสารอันตราย หรือเป็นฟิลเลอร์ถาวรที่ไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ เมื่อเวลาผ่านไปอาจเกิดการอักเสบสะสม กลายเป็นก้อน หรือเนื้อเยื่อเน่าในที่สุดครับ - ฉีดโดยหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต
คนที่ไม่ใช่แพทย์มักไม่มีความรู้ด้านกายวิภาค ไม่เข้าใจตำแหน่งเส้นเลือด หรือชั้นผิวที่เหมาะสมในการฉีด ส่งผลให้ฟิลเลอร์ถูกฉีดผิดตำแหน่ง ลึกเกินไป หรือเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือตายของเนื้อเยื่อ - เครื่องมือไม่สะอาด หรือไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี
การฉีดในสถานที่ที่ไม่สะอาด ไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวหนังในขณะที่ฉีด เกิดการติดเชื้อใต้ผิวจนลุกลามและทำให้ฟิลเลอร์เน่าในที่สุดครับ - แพ้หรือร่างกายต่อต้านฟิลเลอร์
ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ แต่ในบางกรณีร่างกายอาจมีปฏิกิริยาต่อต้านฟิลเลอร์ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง กลายเป็นก้อนแข็ง หรือเนื้อเยื่อรอบๆ เริ่มเสื่อมลง
ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติหลังฉีด เช่น บวมแดงรุนแรง ปวดมาก เป็นก้อนแข็ง หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางโดยด่วน เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นภาวะฟิลเลอร์เน่าหรือไม่ และได้รับการรักษาอย่างถูกต้องครับ
ฉีดฟิลเลอร์เน่า อาการเป็นอย่างไร?
หากคุณเพิ่งฉีดฟิลเลอร์มาและรู้สึกว่ามีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นที่บริเวณที่ฉีด สิ่งสำคัญคือ “ต้องสังเกตให้ดี” เพราะบางครั้งอาการอาจไม่ชัดเจนในวันแรกๆ แต่อาจค่อยๆ พัฒนาไปสู่ภาวะที่รุนแรงขึ้นได้ ซึ่งอาการของฟิลเลอร์เน่ามักมีลักษณะดังนี้ครับ:
- บวม แดง ร้อน และปวดมากกว่าปกติบริเวณที่ฉีด โดยอาการไม่ลดลงแม้ผ่านไปหลายวัน
หลังฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวมได้เล็กน้อยในช่วง 1–2 วันแรก แต่หากอาการบวมยังคงรุนแรง แดงจัด ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ และสัมผัสแล้วรู้สึกร้อนบริเวณผิว นั่นอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อที่กำลังเกิดขึ้นภายในครับ - คลำเจอก้อนแข็งหรือก้อนนูนใต้ผิวหนัง ที่ไม่เคลื่อนที่หรือเจ็บเมื่อกด
หากรู้สึกว่ามีก้อนเล็กๆ แข็งๆ อยู่ใต้ผิว หรือรู้สึกตึงผิดปกติในบริเวณที่ฉีด นั่นอาจเกิดจากการสะสมของฟิลเลอร์ที่ร่างกายพยายามสร้างพังผืดล้อมรอบ หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังจนนูนเป็นไต กรณีนี้ไม่ควรรอให้อาการลุกลามครับ - ผิวหนังเปลี่ยนสีเป็นม่วงคล้ำ เทา หรือดำในบางจุด และอาจเริ่มรู้สึกชาบริเวณนั้น
สีผิวที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเป็นสีที่ดูคล้ายขาดเลือด เป็นสัญญาณว่าฟิลเลอร์อาจอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงผิวหนังได้ตามปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเนื้อตายหรือแม้กระทั่งตาบอดหากเกิดในบริเวณใกล้ดวงตาครับ - มีหนองหรือของเหลวไหลออกจากบริเวณที่ฉีด หรือเป็นตุ่มแดงคล้ายสิวที่ไม่หาย
เมื่อมีการติดเชื้อภายในที่รุนแรง ร่างกายจะพยายามขับของเสียออกมาในรูปแบบของหนองหรือของเหลว ถ้ามีของเหลวสีขุ่น มีกลิ่น หรือเป็นแผลเปิด ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือผ่าตัดดูดหนองร่วมด้วยครับ - อาการรุนแรง เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หรือมีอาการชาบริเวณใบหน้า
หากมีอาการนอกเหนือจากเฉพาะจุดที่ฉีด เช่น ตาเริ่มมองไม่ชัด ปวดศีรษะข้างเดียว หรือชาบริเวณรอบตาและแก้ม นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดที่เชื่อมกับเส้นเลือดตา ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉินทันทีเพราะเสี่ยงต่อการตาบอดครับ
บทความน่ารู้ เติมไขมันหน้า คืออะไร ฉีดแล้วเป็นยังไง รู้ก่อนเติมไขมันหน้าเด็ก
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถเกิดขึ้นได้ หากฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าฟิลเลอร์จะเป็นหัตถการที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำโดยประมาทครับ เพราะอาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรงทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้เช่นกัน
อันตรายที่พบได้จากการฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่:
- บวม ช้ำ หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดมากกว่าปกติ
โดยเฉพาะถ้าใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดลึกผิดชั้นผิว อาการบวมแดงอาจรุนแรงจนใช้ชีวิตประจำวันไม่สะดวก - ฟิลเลอร์ไหลหรือเป็นก้อน ไม่เข้ารูป
เกิดจากการฉีดในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดฟิลเลอร์มากเกินไปจนร่างกายดูดซึมไม่ทัน ส่งผลให้หน้าดูไม่สมส่วน หรือเห็นก้อนนูนชัดเจน - ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด
เป็นภาวะที่อันตรายที่สุด เพราะถ้าฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดโดยไม่ได้ตั้งใจ จะทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงเนื้อเยื่อได้ ผิวหนังอาจตาย หรือหากเกิดบริเวณรอบตา อาจทำให้ “ตาบอดถาวร” ได้ภายในไม่กี่นาที - ติดเชื้อใต้ผิวหนัง
ถ้าใช้เข็มไม่สะอาด หรือคลินิกไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ชั้นผิว เกิดเป็นหนอง อักเสบ และลุกลามจนต้องรักษาด้วยการขูดหรือดูดฟิลเลอร์ออก - เกิดอาการแพ้หรือร่างกายต่อต้านฟิลเลอร์
ถึงแม้จะเป็นฟิลเลอร์แท้ บางคนก็อาจมีปฏิกิริยากับสารไฮยาลูโรนิกแอซิด ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง หรือเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนังได้
ฉีดฟิลเลอร์เน่า แก้ไขอย่างไร?
หากเกิดอาการฟิลเลอร์เน่า ไม่ว่าจะมีอาการบวมแดง อักเสบ เป็นก้อนแข็ง หรือมีหนอง สิ่งที่ควรทำที่สุดคือรีบพบแพทย์เฉพาะทางทันทีครับ เพราะหากปล่อยไว้อาจลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ผิวเน่าหรือเนื้อเยื่อตายถาวร การรักษาต้องอาศัยทั้งประสบการณ์ของแพทย์และการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อหยุดการอักเสบ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และป้องกันไม่ให้ผิวเกิดรอยแผลเป็นในระยะยาว
การแก้ไขฟิลเลอร์เน่า ส่วนใหญ่จะใช้วิธีดังนี้ครับ:
- ฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส สลายฟิลเลอร์
ยาตัวนี้สามารถสลายฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดการอักเสบจากการสะสมของฟิลเลอร์ในชั้นผิว แพทย์จะประเมินว่าควรฉีดในปริมาณเท่าไหร่ และฉีดตรงจุดใดบ้างเพื่อให้ยาสลายได้ตรงจุดและปลอดภัยที่สุด - ให้ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ
หากมีการติดเชื้อหรือหนองร่วมด้วย แพทย์จะจ่ายยาฆ่าเชื้อร่วมกับการดูดฟิลเลอร์หรือฉีดยาสลาย เพื่อควบคุมการอักเสบและป้องกันการลุกลามของเชื้อ - ดูดฟิลเลอร์ออก หรือผ่าตัดเอาก้อนออกในกรณีที่ไม่สามารถสลายได้
หากฟิลเลอร์ที่ฉีดไม่ใช่ไฮยาลูโรนิกแอซิด (เช่น ฟิลเลอร์ถาวร หรือฟิลเลอร์ปลอม) การสลายด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส อาจไม่ได้ผล จำเป็นต้องใช้วิธีผ่าตัดขูดหรือดูดออก ซึ่งต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ
ฟิลเลอร์แท้ หรือฟิลเลอร์ปลอม ดูอย่างไร?
เป็นคำถามที่สำคัญมากครับ เพราะความแตกต่างของฟิลเลอร์แท้กับฟิลเลอร์ปลอมไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ “ความปลอดภัย” และ “ผลลัพธ์หลังฉีด” โดยตรง ถ้าใช้ฟิลเลอร์ปลอม นอกจากผลลัพธ์จะไม่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังเสี่ยงต่อการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นก้อน หรือแม้แต่ผิวเน่าได้เลยครับ
วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ vs ฟิลเลอร์ปลอม
- ดูยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย
ฟิลเลอร์แท้จะต้องเป็นแบรนด์ที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทยเท่านั้น เช่น Juvederm, Restylane, Belotero เป็นต้น ถ้าชื่อแบรนด์ไม่คุ้น ไม่มีในรายชื่อ หรือหาข้อมูลไม่ได้เลย อาจเป็นของปลอมครับ - กล่องและบรรจุภัณฑ์ต้องซีลสมบูรณ์ มีเลขทะเบียนและวันหมดอายุชัดเจน
ฟิลเลอร์แท้จะมีบรรจุภัณฑ์ที่ดูเรียบร้อย มีซีลปิดแน่น ไม่มีรอยแกะ และระบุชื่อรุ่น วันหมดอายุ หมายเลขล็อต และเลขทะเบียน อย. อย่างครบถ้วน สามารถขอให้คลินิกเปิดกล่องใหม่ต่อหน้าได้ทุกครั้งครับ - ต้องมีสติกเกอร์ lot number ตรงกับกล่อง และสามารถตรวจสอบได้
บนกล่องและหลอดฟิลเลอร์จะมีสติกเกอร์ระบุเลขล็อต ซึ่งควรตรงกัน และสามารถนำเลขไปตรวจสอบในระบบของ อย. ได้ หากไม่มีเลขล็อต หรือมีแต่ไม่ตรง อาจเป็นของลอกเลียนแบบ - เนื้อฟิลเลอร์ต้องดูใส ไม่เป็นเม็ด ไม่มีสีขุ่น หรือแยกชั้น
ฟิลเลอร์แท้จะมีลักษณะเป็นเจลใสเนียนเรียบ ไม่มีฟองอากาศหรือสิ่งแปลกปลอม ถ้าเห็นว่าฟิลเลอร์แยกชั้น เป็นเม็ดๆ หรือมีลักษณะผิดปกติ อย่าเสี่ยงฉีดเด็ดขาดครับ - ฉีดโดยแพทย์เท่านั้น และขอดูฟิลเลอร์ก่อนฉีดได้ทุกครั้ง
คลินิกที่ใช้ฟิลเลอร์แท้จะให้ความมั่นใจคนไข้ได้เต็มที่ โดยการแกะกล่องใหม่ต่อหน้า และให้คนไข้ตรวจสอบก่อนฉีด หากคลินิกไม่ยอมแสดงกล่อง หรือรีบฉีดโดยไม่ให้ดูอะไรเลย ควรระวังครับ
วิธีสังเกตคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน
วิธีสังเกตคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนที่กำลังวางแผนจะฉีดฟิลเลอร์ เพราะแม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่หากทำในที่ที่ไม่มีมาตรฐาน ก็เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ฟิลเลอร์ไหลผิดรูป ติดเชื้อ หรือในกรณีร้ายแรงอาจอุดตันเส้นเลือดจนถึงขั้นตาบอดได้ คลินิกที่ได้มาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ลง และทำให้ผลลัพธ์ดูปลอดภัย สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นครับ
สิ่งแรกที่ควรสังเกตคือคลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล อย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข และมีเลขที่ใบอนุญาตแสดงไว้อย่างชัดเจนในสถานที่จริง นอกจากนี้ควรมีแพทย์ประจำที่มีใบประกอบวิชาชีพจริง ไม่ใช่หมอกระเป๋าหรือบุคคลทั่วไปที่ไม่มีความรู้เฉพาะทาง แนะนำให้ขอดูชื่อแพทย์และค้นหาในเว็บไซต์แพทยสภาได้เลยว่าเป็นแพทย์ตัวจริงหรือไม่
ภายในคลินิกควรสะอาด มีความเป็นสัดส่วน และมีเครื่องมือแพทย์ที่ได้มาตรฐานครบถ้วน รวมถึงมีการใช้ ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. ไทยเท่านั้น โดยสามารถขอดูชื่อยี่ห้อ เลขทะเบียน อย. และวันหมดอายุได้ก่อนฉีด และที่สำคัญคือ คลินิกควรมีระบบติดตามผลหลังทำอย่างต่อเนื่อง หากมีอาการผิดปกติสามารถติดต่อแพทย์ได้ทันที แบบนี้แหละครับถึงจะเรียกว่า “คลินิกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน” และควรค่าแก่ความไว้วางใจ.
ผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อันตรายไม่น้อยไปกว่าฟิลเลอร์เน่า
ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด
เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุด หากฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าเส้นเลือดโดยไม่ได้ตั้งใจ จะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังเนื้อเยื่อได้ อาจส่งผลให้ผิวหนังตาย หรือหากเกิดบริเวณใกล้ตา อาจทำให้ตาบอดถาวรได้ภายในไม่กี่นาที
บวม ช้ำ รุนแรงและผิดปกติ
แม้ฟิลเลอร์จะทำให้เกิดอาการบวมเล็กน้อยได้ตามปกติ แต่ถ้าบวมแดง ช้ำเขียว รู้สึกร้อนหรือปวดรุนแรงหลังฉีด นั่นอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบหรือติดเชื้อที่เริ่มลุกลาม ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันทีครับ
เป็นก้อน ผิวไม่เรียบ ผิดรูป
บางครั้งการฉีดในตำแหน่งผิดชั้นผิว หรือฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดการสะสมของฟิลเลอร์เป็นก้อนแข็ง ทำให้ใบหน้าผิดรูป ไม่สมส่วน และในบางกรณีอาจต้องขูดออกหรือใช้ยาสลายฟิลเลอร์ร่วมด้วย
แพ้ฟิลเลอร์หรือเกิดการอักเสบเรื้อรัง
ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ ร่างกายบางคนก็อาจเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน เกิดเป็นตุ่มนูนใต้ผิว มีอาการแดงเรื้อรัง หรือปวดๆ ยุบๆ เป็นๆ หายๆ ซึ่งอาจต้องใช้ยาต้านอักเสบหรือฉีดยาสลายเพื่อรักษาภาวะนี้
ติดเชื้อจากอุปกรณ์หรือการฉีดไม่สะอาด
หากฉีดในสถานที่ที่ไม่มีมาตรฐาน หรือผู้ทำหัตถการไม่ได้ฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง อาจเกิดการติดเชื้อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดหนอง หรือเป็นแผลอักเสบที่ลุกลาม และอาจกลายเป็นรอยแผลถาวรได้ครับ
บทความน่ารู้ ฉีดไขมันหน้า อันตรายไหม เจาะลึก ข้อดี ข้อเสียของการฉีดไขมันหน้า
ฟิลเลอร์เน่า มีวิธีป้องกันอย่างไร
ฟิลเลอร์เน่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ไม่มีใครอยากเจอแต่สามารถป้องกันได้ หากคุณรู้วิธีเลือกสถานที่ฉีดและตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ข้อแรกที่สำคัญที่สุดคือต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น เพราะแพทย์จะมีความรู้ด้านกายวิภาค รู้ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งไหน ปริมาณเท่าไหร่ และสามารถรับมือกับภาวะแทรกซ้อนได้ทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดคิดครับ
อีกวิธีสำคัญในการป้องกันคือ การใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และสามารถตรวจสอบเลขล็อตผลิตภัณฑ์ได้ ฟิลเลอร์แท้จะปลอดภัยกว่าเพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และลดความเสี่ยงการอักเสบในระยะยาว ควรขอดูแพทย์แกะกล่องฟิลเลอร์ต่อหน้าทุกครั้งก่อนฉีด และหลีกเลี่ยงหมอกระเป๋าหรือสถานที่ลับที่ไม่มีใบอนุญาต เพราะถึงแม้ราคาจะถูก แต่ความเสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์เน่าและผลข้างเคียงรุนแรงก็เพิ่มขึ้นตามมาครับ.
ฟิลเลอร์เน่า หน้าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม
ฟิลเลอร์เน่าแล้วหน้าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม? คำถามนี้คุณหมอเจอบ่อยเลยครับ และเข้าใจดีครับว่าคนที่เจอกับปัญหานี้จะรู้สึกเครียดและกังวล เพราะไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว แต่กระทบกับความมั่นใจในชีวิตประจำวันโดยตรง ซึ่งในมุมมองของคุณหมอ ถ้าเราสังเกตอาการผิดปกติได้เร็ว และรีบเข้ารับการรักษาทันที โอกาสที่ใบหน้าจะกลับมาใกล้เคียงสภาพเดิมมีค่อนข้างสูงครับ โดยเฉพาะในกรณีที่ฟิลเลอร์ยังไม่ลุกลามจนไปทำลายเนื้อเยื่อหรือไม่ได้เกิดภาวะอุดตันเส้นเลือด
แต่ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปจนฟิลเลอร์ไปอุดเส้นเลือด หรือเกิดเนื้อเยื่อตายขึ้นมา อันนี้ยอมรับครับว่าอาจจะมีผลต่อผิวในระยะยาว เช่น ผิวบุ๋ม รอยแผล หรือบางจุดอาจฟื้นตัวยาก ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่วมกับหัตถการอื่น เช่น เลเซอร์ กระตุ้นคอลลาเจน หรือแม้แต่การฉีดฟิลเลอร์ซ้ำอย่างระมัดระวังในอนาคต เพราะฉะนั้นคุณหมอแนะนำครับว่า ถ้ามีอาการผิดปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ เช่น ปวด บวม ร้อน หรือผิวเปลี่ยนสี อย่ารอ รีบพบแพทย์ทันที เพราะการรักษาเร็ว จะช่วยให้กลับมาดูดีได้เร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดปัญหารุนแรงในระยะยาวครับ
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ปากกับ 42G?
- ใช้ฟิลเลอร์เกรดดีที่สุดจาก USA ที่ทั้งปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุด
ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบในร่างกายมนุษย์ ย่อยสลายได้ 100% ไม่ตกค้าง ไม่สะสมในร่างกาย และผ่านการรับรองทั้งจาก อย. ไทย และสหรัฐอเมริกา - เนื้อฟิลเลอร์เนียนละเอียด ไม่เป็นก้อน และกลืนไปกับผิวปากอย่างเป็นธรรมชาติ
ฉีดแล้วไม่เห็นรอยนูน ไม่เป็นไต และไม่มีปัญหาฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูสวยเนียน ไม่หลอกตา - ช่วยเพิ่มวอลุ่ม เติมเต็มริมฝีปากให้ฟูแบบมีมิติ พร้อมช่วยลิฟต์ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น
เหมาะสำหรับคนที่มีปากบาง แห้ง หรือมีร่องลึก ฟิลเลอร์ช่วยให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้น อิ่มฟู และมีวอลลุ่มที่สวยงามอย่างเห็นได้ชัด - ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ เพราะฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง
การฉีดฟิลเลอร์ปากต้องอาศัยการประเมินและออกแบบรูปทรงให้เหมาะกับใบหน้า แพทย์ที่ 42G จะฉีดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ดูสมดุลและกลมกลืนกับรูปหน้าของแต่ละคน - ช่วยให้ริมฝีปากมีสีอมชมพู ดูสุขภาพดี ไม่ต้องพึ่งลิปบาล์มหรือลิปสติกตลอดเวลา
ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพช่วยกระตุ้นให้ผิวปากดูสดใส ริมฝีปากไม่แห้ง แตกง่าย และดูอวบอิ่มมีชีวิตชีวา - ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี คุ้มค่า ดูแลง่าย ไม่ต้องเติมบ่อย
หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น และรูปทรงของริมฝีปากจะยังคงสวยงามได้นานหลายเดือน โดยไม่ต้องเติมบ่อยๆ
สรุป: ฟิลเลอร์เน่า เกิดจากสาเหตุอะไร? แก้ด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
ฟิลเลอร์เน่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม โดยสาเหตุหลักมักเกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ หรือฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้ผิวบวม แดง เป็นก้อนแข็ง หรือเนื้อเยื่อเน่าได้ อาการอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่วันหลังฉีด หรือบางกรณีอาจแสดงออกช้าหลายเดือนหลังทำ
การแก้ไขฟิลเลอร์เน่าจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ วิธีพื้นฐานคือการฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส เพื่อสลายฟิลเลอร์ พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อหรือรักษาอาการอักเสบเพิ่มเติม หากฟิลเลอร์เป็นชนิดถาวรหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจต้องขูดหรือผ่าตัดออกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเข้ารับการรักษาเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงของแผลเป็นถาวร และเพิ่มโอกาสที่ใบหน้าจะกลับมาใกล้เคียงเดิมมากที่สุด ดังนั้นควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ และให้แพทย์เป็นผู้ทำหัตถการเท่านั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงนี้ตั้งแต่ต้นครับ
สนใจปลูกผมถาวร: 42G Clinic ปลูกผม